ภาพ: Xinfully |
ย่านางเป็นสมุนไพรฤทธิ์เย็นที่อุดมไปด้วยคลอโรฟิลล์ สารต้านอนุมูลอิสระและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ในวงการแพทย์ทางเลือกจึงนิยมใช้ใบย่านางเพื่อรักษาอาการผิดปกติและปรับสมดุลในร่างกายโดยการเข้าไปฟื้นฟูอวัยวะที่เสื่อมสภาพให้กลับมาทำงานได้อย่างเป็นปกติ
ในปัจจุบันที่ผู้คนเริ่มหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น การดื่มน้ำใบย่านางจึงกลายเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมมาก ส่วนผู้ที่ทนกลิ่นเหม็นเขียวของใบย่านางไม่ไหวก็เลือกทานในรูปแบบอื่นเช่นใส่ในอาหารหรือที่ง่ายกว่านั้นคือ "ใบย่านางในแคปซูล" แต่สรรพคุณก็จะลดลงจากการดื่มน้ำใบย่านางสดๆ
สรรพคุณใบย่านาง
• คุณสมบัติเด่นๆคือการฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมสภาพ ลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งและทำให้ก้อนมะเร็งฝ่อเล็กลง ป้องกันการเกิดโรคหัวใจ ป้องกันและบรรเทาโรคเกาต์ ปรับสมดุลระบบทางเดินอาหาร ลดระดับน้ำตาลในเลือด รักษานิ่ว (ไต,กระเพาะ,ถุงน้ำดี) บำบัดอัมพฤกษ์ ป้องกันการเกิดริ้วรอยอ่อนวัย
อันตรายจากใบย่านาง
• ในอาหารอีสานส่วนใหญ่จะมีใบย่านางปนอยู่ด้วยเพื่อต้านพิษโบท็อกซ์ในอาหาร ยกตัวอย่างเช่นหน่อไม้ดองซึ่งเป็นอาหารที่เกิดพิษโบท็อกซ์ได้ง่ายที่สุดจึงต้องใส่ใบย่านางลงไปเพื่อสลายพิษ หรือในบางครั้งที่เกิดอาการเป็นพิษจากอาหารจึงมักจะกินใบย่านางตามลงไปที่ชำระล้างพิษออกมา
ย่านางเป็นสุดยอดสมุนไพรล้างพิษแต่โดยปกติร่างกายมนุษย์จะมีระบบขจัดพิษที่ทำหน้าที่อยู่แล้ว การดื่มน้ำใบย่านางเป็นประจำจะทำให้ระบบขจัดพิษไม่ต้องทำงานซึ่งฟังดูดีแต่ในความเป็นจริงนั้นมันจะทำให้ระบบขจัดพิษเสื่อมลง เปรียบได้กับร่างกายที่อ่อนแอเพราะไม่ได้รับการออกกำลังกายนั่นเอง
อีกประการคือร่างกายมนุษย์ประกอบด้วย "ดิน น้ำ ลมและไฟ" ซึ่งธาตุทั้งสี่นี้ต้องอยู่ในระดับที่สมดุล แต่การที่ย่านางมีคุณสมบัติฤทธิ์เย็นมากซึ่งหากทานติดต่อกันเป็นระยะเวลาที่นานเกินไปสมดุลระหว่างร้อนและเย็นในร่างกายก็จะเกิดเสียส่งผลให้ระบบภูมิต้านทานแย่ลงและพาให้เกิดโรคได้ง่าย