แม้สมุนไพรใกล้ตัวมากมายจะมีสรรพคุณในการลดระดับน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน แต่นั่นไม่ใช่การรักษาเบาหวานที่ยังยืนแต่เป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยการกระตุ้นตับอ่อนให้หลั่ง "อินซูลิน" ออกมาทำหน้าที่นำน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ซึ่งเป็นการเพิ่มภาระและความเครียดให้ตับอ่อนเสื่อมสภาพลงไปอีก
การรักษาเบาหวานที่ยั่งยืนและถูกต้องที่สุดคือการฟื้นฟูตับอ่อนที่เสื่อมสภาพให้กลับมาทำงานได้เป็นปกติไม่ใช่การกระตุ้นให้ตับอ่อนทำงานหนักและเสื่อมลงเรื่อยๆ เราขอแนะนำตัวช่วยธรรมชาติที่จะช่วยฟื้นฟูตับอ่อนง่ายๆด้วย 3 ขั้นตอนการบำรุงที่ช่วยให้ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 กลับมามีสุขภาพที่แข็งแรงได้อีกครั้ง
1. น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น: น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นเป็นโมเลกุลขนาดกลางที่ซึมเข้าเซลล์ได้ทันทีและช่วยลดค่าดัชนีน้ำตาลในอาหารให้ต่ำลง การดื่มน้ำมันมะพร้าวก่อนหรือพร้อมอาหารช่วยลดความเครียดของตับอ่อนโดยการนำพลังงานเข้าสู่เซลล์แทนอินซูลิน เมื่อร่างกายไม่ต้องใช้อินซูลินตับอ่อนก็จะได้พักและเตรียมพร้อมสู่การฟื้นฟู น้ำมันมะพร้าว
2. ผักเชียงดา: ผักเชียงดามีชื่อเสียงในเรื่องการรักษาโรคเบาหวานมาเป็นเวลานานกว่าพันปีแล้ว ตัวยาที่มีอยู่ในผักเชียงดาจะทำการฟื้นฟูและสร้างเบต้าเซลล์ในตับอ่อนซึ่งเป็นอวัยวะส่วนที่สร้างอินซูลินขึ้นมาใหม่ เมื่อตับอ่อนได้รับการผ่อนคลายและฟื้นฟูแล้วตับอ่อนก็พร้อมที่จะกลับมาสร้างอินซูลินได้ตามปกติ ผักเชียงดา
3. สาหร่ายเกลียวทอง: สาหร่ายเกลียวทองอุดมไปด้วยสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน กรดอะมิโนในสาหร่ายเกลียวทองที่ชื่อว่าซีสทีน (Cysteine) มีคุณสมบัติในการเข้าไปบำรุงตับอ่อนให้แข็งแรงและช่วยป้องกันอาการแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคเบาหวานได้ สาหร่ายเกลียวทอง
การจะทำใช้ตัวช่วยทั้ง 3 ให้ได้ประสิทธิภาพนั้นอาจต้องใช้เวลานานซึ่งขึ้นอยู่กับระดับของอาการ แม้ในผู้ป่วยเบาหวานบางรายอาจจะรักษาไม่หายขาดแต่ก็สามารถใช้ชีวิตได้ไม่ต่างจากคนปกติ แต่ที่สำคัญคือจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม (แย่ๆ) ให้หมดลงไปด้วยไม่เช่นนั้นต่อให้มียาวิเศษแค่ไหนก็ไม่สามารถรักษาได้